

พระราชวังเชินบรุนน์ (Schloss Schönbrunn)
รู้สึกเหมือนเป็นจักรพรรดิใน CAFE' GLORIETTE จริงแท้ทีเดียวเมื่อได้แวะมารับประทานอาหารและจิบกาแฟ อีกทั้งเครื่องดื่มที่นี่

เชินบรุนน์ หมายถึง น้ำพุอันสวยงาม ซึ่งเป็นชื่อของ พระราชวังเชินบรุนน์ (Schloss Schönbrunn) ตั้งอยู่ในกรุงเวียนนา สาธารณรัฐออสเตรีย ด้วยเหตุพื้นที่แห่งนี้เป็นพื้นที่ลุ่ม และมีน้ำบาดาลผุดขึ้นมาจากพื้นดินตั้งแต่เริ่มแรก พระราชวังเป็นที่ประทับของจักรพรรดิแห่งราชวงศ์ฮับส์บูร์ก มาตั้งแต่สมัยคริสศตวรรษที่ 13 – 20 โดยจักรพรรดิโยเซฟที่ 1 มีพระราชดำริให้สร้างพระราชวังที่โอ่อ่าหรูหรา โดยใช้พระราชวังแวร์ซายส์ในฝรั่งเศสเป็นต้นแบบออกแบบโดย Johann Bernhard Fischer von Erlach และ Nicolaus Pacassi พระราชวังเป็นที่รวบรวมผลงานทางศิลปะการตกแต่งชั้นเยี่ยมจำนวนมาก

Johann Bernhard Fischer von Erlach (20 กรกฎาคม ค.ศ. 1656 - 5 เมษายน ค.ศ. 1723) เป็นสถาปนิก ประติมากร และนักประวัติศาสตร์สถาปัตยกรรม ชาวออสเตรีย ซึ่งสถาปัตยกรรมแบบบาโรกมีอิทธิพลอย่างลึกซึ้งและกำหนดรสนิยมของจักรวรรดิฮับส์บูร์ก หนังสือที่ทรงอิทธิพลของเขา A Plan of Civil and Historical Architecture (1721) เป็นหนึ่งในการศึกษาเปรียบเทียบสถาปัตยกรรมโลกครั้งแรกและเป็นที่นิยมมากที่สุด ผลงานหลักของเขา ได้แก่ พระราชวังเชินบรุนน์, คาร์ลสเคียร์เชอ และหอสมุดแห่งชาติออสเตรียในกรุงเวียนนา และ Schloss Klessheim โบสถ์โฮลีทรินิตี และคอลเลเจียนเคียร์เชอในซาลซ์บูร์ก

Nicolò Pacassi (5 มีนาคม ค.ศ. 1716 - 11 พฤศจิกายน ค.ศ. 1790) หรือในชื่อ Nikolaus Pacassi เป็นสถาปนิกชาวอิตาลี-ออสเตรีย เกิดที่ Wiener Neustadt ในโลเออร์ออสเตรียในครอบ ครัวพ่อค้าจากกอริเซีย ปี ค.ศ. 1753 ได้รับแต่งตั้งให้เป็นสถาปนิกในราชสำนักให้กับมาเรีย เทเรซาแห่งออสเตรีย เขาได้รับมอบหมายงานมากมายทั่วทั้งจักรวรรดิออสเตรีย ส่วนใหญ่อยู่ในเวียนนา ปราก อินส์บรุค บูดา และกอริเซียและกราดิสกาซึ่งเป็นบ้านเกิดของเขา
ออสเตรีย (Austria) ประเทศที่ได้ชื่อว่าเป็นดินแดนที่สุดแสนโรแมนติกเมืองหนึ่งของโลก เป็นเมืองแห่งดนตรีคลาสสิก อมตะซึ่งนักแต่งเพลงคลาสสิกไม่ว่าจะเป็น บีโธเฟ่น โมสาร์ท, ชูเบอร์ก, บราห์ม หรือ โยฮัน สเตราส์และอื่น ๆ อีกมากมาย มีสถานที่ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกขององค์การยูเนสโก้ถึงสองแห่ง คือเขตเมืองเก่าใจกลางกรุงเวียนนา ปี ค.ศ. 2001 และพระราชวังเชินบรุนน์ ปี ค.ศ. 1996



พระราชวังเชินบรุนน์ เป็นตึก 3 ชั้นสีเหลืองสดใส ซึ่งเป็นสีที่พระนางมาเรีย เทเรซาทรงโปรดปราณ ตัวปราสาทประกอบด้วยห้องทั้งหมด 1,441 ห้อง เปิดให้เข้าชมได้เพียง 40 ห้อง ด้วยสถาปัตยกรรม และความโอ่อ่าหรูหรา ของพระราชวังเชินบรุนน์ ทำให้ผู้คนจากทั่วทุกมุมโลกแวะเวียนเข้ามาเยี่ยมชมความสวยงาม และความอลังการของพระราชวังแห่งนี้กันอย่างมากมาย ด้วยความงามแบบบาโรก
บาโรก นั้นนอกจากจะหมายถึงศิลปะที่รุ ่งเรืองระหว่างคริสต์ศตวรรษที่ 17 ถึง คริสต์ศตวรรษที่ 18 แล้วก็ยังหมายถึงความโอ่อ่าที่เต็มไปด้วยรายละเอียด ซึ่งอาจพูดถึงศิลปะที่มีการตกแต่งค่อนข้างอลังการ บารอกเป็นศิลปะที่สร้างความประทับใจให้กับผู้ดู เป็นศิลปะที่แสดงความถึงความมีอำนาจของเจ้าของ
วังแบบบาโรกจะสร้างต่อเนี่องกัน (sequence) จากห้องพักรอ (anterooms) ถึงบันไดใหญ่ (grand staircases) ไปจนถึงห้องรับรองใหญ่ (reception rooms) แต่ละตอนก็เพิ่มความโอ่อ่าขึ้นตามลำดับ รายละเอียดตกแต่งหรูหราและอลังการ ลักษณะเช่นนี้ครอบคลุมศิลปะทุกแขนง ศิลปินบาโรกจะนิยมใช้รายละเอียดใกล้เคียงกัน (repeated and varied patterns) ซ้ำ ๆ แต่ละครั้งจะค่อย ๆ แปรเปลี่ยนไปทีละเล็กละน้อย ลักษณะศิลปะแบบบาโรกที่เด่นและแตกต่างจากสมัยอื่นคือ มีความอลังการ จะเต็มไปด้วยลวดลายประดิดประดอย สีจัดชัดเจน หน้าตารูปปั้นจะมีหน้าอิ่มเอิบเหมือนเทพ
ในพระราชวังแห่งนี้ พระนางมารี อองตัวเนต พระราชินีแห่งฝรั่งเศส ก็ยังเคยใช้พระชนม์ชีพในวัยเยาว์ รวมถึงสมเด็จพระจักรพรรดินโปเลียนที่ 1 หรือนโปเลียน โบนาปาร์ต แห่งฝรั่งเศส ก็เคยมาประทับพักอยู่ ณ พระราชวังแห่งนี้กับพระราชโอรสของพระองค์ ซึ่งแต่เดิมด้านหลังของพระราชวังจะเป็นป่าใช้สำหรับล่าสัตว์แต่ภายหลังได้มีการจัดทำสวนดอกไม้สวยอย่างเลอค่า
หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 พระราชวังเชิญบรุนน์ได้รับความเสียหายอย่างหนัก จากการที่พันธมิตรได้บุกยึดเพื่อใช้เป็นกองบัญชาการ ดังนั้น รัฐบาลออสเตรีย จึงซ่อมแซมพระราชวังใหม่ให้งดงามดังเดิม พระราชวังเชินบรุนน์ โด่งดังและเป็นที่รู้จักทั่วโลก ว่ากันว่าพระราชวังแห่งนี้อลังการสวยงามจับใจและเป็นศูนย์รวมของผลงานด้านศิลปะชั้นเยี่ยม

กลอรีเอตต์ เป็นอาคารในสวนที่สร้างขึ้นบนเนินสูง อยู่ในรูปแบบของศาลาหรือเทมปิเอตโต โดยการเปิดออกด้านข้าง กลอรีเอตต์ ในสวนของพระราชวังเชินบรุนน์ในกรุงเวียนนา สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2318 เป็นอาคารหลังสุดท้ายที่สร้างขึ้นในสวน เพื่อเป็น "อาคารแสดงความมีชื่อเสียง" และใช้เป็นทั้งจุดโฟกัสและจุดชมวิวสวน ห้องรับประทานอาหารและห้องจัดงานเทศกาล ตลอดจนห้องรับประทานอาหารเช้าสำหรับจักรพรรดิฟรานซ์ โจเซฟที่ 1 โรงอาหารได้ใช้จนสิ้นสุดราชวงศ์ มีประติมากรรมประดับพระเกียรติ ซึ่งได้ถูกทำลายในสงครามโลกครั้งที่สอง แต่ได้รับการบูรณะในปี 2490 และไปี 2538 เมื่อส่วนกลางปิดด้วยบานกระจกและเปลี่ยนเป็นร้านกาแฟอยู่ในนั้น และบนดาดฟ้ามีจุดชมวิวมองเห็นกรุงเวียนนา
ความรุ่งโรจน์นี้อุทิศให้เป็นอนุสาวรีย์แห่งสงครามที่นำไปสู่สันติภาพ ด้วยการสืบราชบัลลังก์ของมาเรีย เทเรซา สงครามสืบราชบัลลังก์ออสเตรีย (ค.ศ. 1740–ค.ศ. 1748) และต่อมาคือสงครามเจ็ดปี (ค.ศ. 1756–1763)
บริเวณด้านหน้าพระราชวังเชินบรุนน์ แสดงถึงความอลังการ และที่อยู่เบื้องหลังราชวังเป็นสวนดอกไม้นานาชนิดสีสันฉูดฉาดตัดกับสีเหลืองทองของพระราชวังเชินบรุนน์อย่างลงตัว พื้นที่สวนสาธารณะทั้งหมดมีขนาดใหญ่ มีขนาดเท่ากับสนามฟุตบอลประมาณ 224 สนาม บนเนื้อที่ 160 เฮกตาร์ พื้นที่พระราชวังแผ่ออกไปทางทิศตะวันออกไปตะวันตก 1.2 กม. และจากเหนือจรดใต้ประมาณ 1 กม. ซึ่งเท่ากับสนามฟุตบอล 224 สนาม
เชินบรุนน์มีโรงละครของตัวเอง ราชวงศ์ฮับส์บูร์กใช้เป็นเวทีส่วนตัว ซึ่งลูกๆ ของพวกเขาเคยแสดงต่อหน้าราชสำนัก แขกดาราคนอื่นๆ ได้รับเชิญให้แสดงบนเวทีเช่นกัน เช่น Mozart และ Haydn ที่ติดอยู่ในโรงละครที่ดูหรูหราแห่งนี้หลายครั้งในสมัยก่อน

สวนสัตว์เชินบรุนน์เป็นสวนสัตว์ที่เก่าแก่ที่สุดในโลกที่ยังคงเปิดดำเนินการเก่าแก่ที่สุดในโลก ซึ่งเดิมใช้เป็นโรงเลี้ยงสัตว์ส่วนตัวของจักรพรรดิและจักรพรรดินี มีช้างตัวแรกที่นำมาเลี้ยงในปี 1770 และอีก 8 ปีต่อมาได้เปิดสวนสัตว์ให้เข้าชมได้เป็นสาธารณะ ในร้านกาแฟเล็ก ๆ ในสวนสัตว์นั้นอยู่ในอาคารที่ตกแต่งเพดานได้อย่างสวยงามน่าประทับใจ
บริเวณในพระราชวังได้เป็นโลเคชั่นในภาพยนตร์หลายเรื่อง เช่น ซีรีส์ Sissi ในตำนานที่นำแสดงโดย Romy Schneider ในขณะที่ยังมีจุดเด่นในการผลิตภาพยนตร์ขนาดใหญ่อื่น ๆ เช่น Sofia Coppola's, Marie Antoinette และ James Bond The Living Daylights
สวนในวังประกอบด้วยสระน้ำ ไร่องุ่น และเขาวงกต หน้าร้อนจะเต็มไปด้วยผู้คนที่เล่นน้ำในวังเก่า และมีแผนจะเปิดโรงบ่มไวน์ Heuriger เสิร์ฟไวน์ที่ทำจากองุ่นจากสวนหลวงอีกด้วย
เรือนกระจกที่ตั้งอยู่ในพื้นที่เป็นอีกลักษณะหนึ่งที่น่าสนใจของอุทยานที่คุณควรไปเยี่ยมชม Palmenhaus หรือ Palm House ที่เรียกว่าสร้างขึ้นในปี 1882 เป็นเรือนกระจกที่ใหญ่ที่สุดในยุโรปเมื่อสร้าง ประกอบด้วยสามส่วนซึ่งเก็บพืชพันธุ์ต่างถิ่นมากมาย พร้อมด้วยผีเสื้อหลายร้อยสาย พันธุ์ โดยมีพืชประมาณ 4,500 สายพันธุ์

Photo by zoovienna.at

ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 สวนสัตว์แห่งนี้เป็นที่อยู่ของสัตว์ 712 สายพันธุ์และตัวอย่าง 3,500 ตัวอย่าง เนื่องจากเสบียงอาหารลดลงในช่วงสงคราม จำนวนตัวอย่างจึงลดลงอย่างรวดเร็วถึง 900 ตัว หลังจากการล่มสลายของจักรวรรดิออสเตรีย-ฮังการีหลังสงคราม สวนสัตว์กลายเป็นความรับผิดชอบของสาธารณรัฐออสเตรีย
การเข้าชมพระราชวังเชินบุรน มีให้เลือกชมหลายแพคเก็จ ตั้งแต่ชมพระราชวัง 30-40 นาที 20 ห้อง ส่วนแกรนด์ทัวร์ชมพระราชวัง 50-60 นาที 40 ห้อง
สวนสัตว์ซ https://www.zoovienna.at/en/