top of page

Oscar Nominee Inspired
2016

หลังจากที่หน้า Feed ในโลกโซเชียล เต็มไปด้วยข้อความแสดงความยินดีแก่พระเอกหนุ่ม Leonardo Dicaprio ที่สามารถคว้ารางวัล Oscar สาขานักแสดงนำชายยอดเยี่ยมมาครองได้ในที่สุด หลังพลาดโอกาสมาถึง 5 ครั้ง 5 คราว anywhere จึงขอเกาะกระแสกับเขาบ้าง ด้วยการพาคุณไปรู้จัก 7 จุดหมายปลายทาง สถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์คุณภาพ 7 เรื่อง ที่เขาชิงรางวัล Oscar 2016 ในสาขาต่างๆ

1. Kananaskis, Canada

เมืองคานานัสคิส (Kananaskis) ในรัฐแอลเบอร์ตา (Albert) ประเทศแคนาดา อุดมไปด้วยพื้นที่ของทะเลสาบ ยอดเขาสูง และทิวเขาที่ทิ้งร่องรอยของความขรุขระบริเวณเทือกเขาร็อคกี้ โดยเป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง The Revenant ฉากที่ตัวละครหลักเดินอยู่ท่ามกลางหุบเขาปกคลุมด้วยหิมะขาวโพลน หรือฉากต่อสู้กันในป่า ล้วนแต่ถ่ายทำที่นี่ทั้งสิ้น รวมถึงขอแสดงความยินดีกับ Leonardo Dicaprio ที่ได้รางวัลออสการ์ สาขานักแสดงนำชายยอดเยี่ยม! 

2. Namib Desert, Namibia

ภาพทะเลทรายสีส้มที่เห็นได้จากฉากต่อสู้บู๊สุดมันในเรื่อง Mad Max: Fury Road (2015) นั้นคือทะเลทรายนามิบ (Namib Desert) ประเทศนามิเบีย ทอดตัวยาว 2,000 กิโลเมตรขนาบกับมหาสมุทรแอตแลนติกอย่างน่าอัศจรรย์ สิ้นสุดที่พรมแดนประเทศนามิเบียกับแอฟริกาใต้ เป็นที่อยู่ของสิ่งมีชีวิตสัตว์ต่างๆ หลากสายพันธุ์ นอกจากบริเวณที่เป็นทรายสีส้มแล้ว ยังมีบริเวณชายฝั่งทางทิศตะวันตกเป็นที่ราบกรวดหิน ในอดีตเคยมีเรือและคนเดินเรือขึ้นมาบริเวณชายฝั่งเพื่อจบชีวิตของตัวเอง จึงได้รับการขนานนามว่า “ชายฝั่งโครงกระดูก” (Skeleton Coast) นอกจากนี้ยังมีขุมเพชรใหญ่ที่สุดในโลกซุกซ่อนตัวอยู่ภายใต้เนินทรายทางใต้ของทะเลทราย

3. Wadi Rum, Jordan

จากสภาพภูมิประเทศธรรมชาติที่รายล้อมเนรมิตให้วาดิรัม (Wadi Rum) เป็นทะเลทรายที่มีหุบเขาหินทรายหินแกรนิตโทนสีแดงขรุขระ อยู่บริเวณทางตอนใต้ของประเทศจอร์แดน (Jordan) มีสภาพใกล้เคียงกับดินแดนอันเวิ้งว้างของดาวเคราะห์ดวงอื่นๆ จึงถูกเรียกว่า หุบเขาแห่งพระจันทร์ (The Valley of the Moon) อีกทั้งยังเป็นฉากในภาพยนตร์เรื่อง The Martian ราวกับว่ายกกองไปถ่ายทำที่ดาวอังคารจริงๆ นักเดินทางสามารถปักหมุดมาพิชิตแลนด์มาร์กแห่งนี้ได้โดยง่าย เมื่อมาห้ามพลาดกิจกรรมมากมาย อาทิ การขี่อูฐ ปีนเขา ตั้งแคมป์ ดูดาวยามค่ำคืน

4. Berlin & Potsdam, Germany 

สะพาน Glienicke หรือ Glienicker Brücke ทอดตัวข้ามผ่านแม่น้ำฮาเฟิล (Havel) เชื่อมสองเมืองสำคัญอย่างเบอร์ลิน (Berlin) และเมืองพอตสดัม (Potsdam) เนื่องจากสะพานแห่งนี้มีประวัติศาสตร์ที่ถูกจารึกไว้ว่าเป็นสะพานใช้ในการแลกเปลี่ยนสายลับในช่วงสงครามเย็น จึงเป็นที่มาของหนังเรื่อง Bridge of Spies ภาพยนตร์ที่ถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์ สาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยม (Best Picture)

5. Nyhavn, Copenhagen 

เดินทอดน่องชมตึกสีสันสวยงาม ณ นูฮาวน์ (Nyhavn) หรือท่าเรือใหม่ในกรุงโคเปนเฮเกน (Copenhagen) ประเทศเดนมาร์ก สัมผัสบรรยากาศในหนัง The Danish Girl อย่างเต็มเปี่ยม บริเวณนั้นมีร้านรวง คาเฟ่ มากมาย นับเป็นสถานที่ที่วัยรุ่นเดนมาร์กนิยมมาเดินทอดน่องกัน นอกจากจะได้อิ่มหน่ำสำราญแล้วยังได้เพลินกับวิวบริเวณท่าเรือ หรือจะเลือกล่องเรือชมก็ได้อรรถรสไปอีกแบบ

6. Cincinnati, Ohio

แม้ว่าฉากส่วนใหญ่ในหนัง Carol จะถ่ายทำที่มหานครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา แต่บางฉากนั้นถ่ายทำ ณ ซินซินแนติ (Cincinnati) เมืองสำคัญของรัฐโอไฮโอ (Ohio) ในสถานที่ท่องเที่ยวอย่าง Eden Park สวนสาธารณะยอดนิยมประจำเมืองแห่งนี้  เนื่องจากมีการตกแต่งจัดสวนสวยงาม มีรูปปั้นฝีมือปราณีตตั้งอยู่ภายในสวน ดึงดูดผู้คนให้มาพักผ่อนหย่อนใจ นอกจากสวนสาธารณะแล้วยังมีพิพิธภัณฑ์ ห้างสรรพสินค้า ซึ่งเป็นหนึ่งในฉากของภาพยนตร์เรื่องนี้อีกด้วย

7. Norfolk, United Kingdom

ดินแดนธรรมชาติอันแสนรื่นรมย์อย่างนอร์ฟอล์ก (Norfolk) ในมณฑลทางทิศตะวันออกของประเทศอังกฤษ โดยมีเมืองนอริช (Norwich) เป็นเมืองหลวง โดยภาพคุ้นตานั้นเป็นภาพกังหันลม (Cley Windmill) สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 18 ความสวยงามของวิวทิวทัศน์พร้อมภาพกังหันทำให้กลายเป็นที่รู้จักของบรรดานักเดินทางให้มาสัมผัสประจักษ์กับสายตาตัวเองบริเวณชายฝั่งทางด้านเหนือของนอร์ฟอล์ก โดดเด่นจนถูกนำไปเป็นหนึ่งในฉากของภาพยนตร์เรื่อง 45 Years 

bottom of page