top of page

Ways to Live

A More Relaxing Life

วราวุธ เลาหะพงศ์ชนะ

Story นงลักษณ์ พรหมปลูก | Photos อนุวัฒ เสนีวงศ์ ณ อยุธยา 

ในบทบาทของความเป็นเซเลบริตี้และพิธีกรชื่อดัง ป๊อบ-วราวุธ เลาหะพงศ์ชนะ ที่เราคุ้นหน้าคุ้นตาเขาดีจากการเป็นพิธีกร 2 รายการดังทางช่อง 3 “The list เดอะ ลิสท์ และ “The Poll เดอะโพล์” เขาโดดเด่นด้วยบุคลิกภาพที่ดูเข้าถึงง่าย เป็นกันเอง ทั้งการแต่งกายที่ดูมีสไตล์ชวนมอง แต่ในอีกมุมก็ยังเป็นเจ้าของกิจการ และเป็นผู้บริหารร้านอาหารอีกหลายแห่ง ตลอดชีวิตที่ผ่านมา เดินทางมาแล้วแทบจะทั่วโลก กระนั้นจากทุกสัมผัสที่มีให้กับการเดินทางเจ้าตัวบอกว่ามันปรับเปลี่ยนไปตามกาลเวลา ที่สำคัญคือ ทุกขณะที่เขาออกเดินทางในเวลานี้ มันคือ ความรู้สึกที่เป็นอิสระและผ่อนคลายเพื่อชีวิตอย่างแท้จริง

“นั่นเพราะแต่ก่อนตอนยังเด็ก เวลาที่ผมออกเดินทางไปในแต่ละที่ จะรู้สึกตื่นตาตื่นใจ ที่ได้เห็นโลกกว้าง อยากเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ มีเป้าหมายที่แตกต่างไป บางแห่งไปเที่ยว บางแห่งไปเรียนหนังสือ ไปพบปะผู้คนด้วยหน้าที่การงาน แต่พอเมื่อเวลาผ่านไปเรื่อยๆ เราได้ออกเดินทางมากขึ้น หลายๆ ทริป ที่ไม่ได้เกี่ยวกับการทำงาน การออกเดินทางของผมจึงมีเป้าหมายเพื่อให้รางวัลกับตัวเองในการพักผ่อน ไม่ได้ไปผจญภัย หรือจุดประสงค์อื่น เมื่อเราไม่ได้ตีกรอบใดๆ ความรู้สึกมันจึงเป็นความผ่อนคลาย สบายๆ ต่อทริปนั้น เช่น ถ้าผมไปอังกฤษ แล้วฝนดันตกทั้งวัน ผมก็ไม่ซีเรียสหรือผิดหวังว่า ไม่ได้ออกไปไหน เพราะอยู่ในโรงแรม กินข้าวในโรงแรม นอนหลับ พักผ่อน เท่านี้ก็รู้สึกดีแล้ว แต่หาก บรรยากาศ ก็ออกไปสูดอากาศ เดินดูพิพิธภัณฑ์ ช็อปปิ้ง เดินเล่น แต่ไม่ได้กำหนดว่า ต้องแบบไหน อย่างไร หรือต้องได้อะไร ตรงนี้จึงทำให้ผม มีความสุขทุกครั้งกับการเดินทางครับ

 

ปีที่แล้ว ผมเดินทางบ่อยมาก ทั้งเรื่องงาน และไปพักผ่อนส่วนตัว แต่ก่อนไปเที่ยว อาจมีแบบลุยๆ บ้าง แต่เดี๋ยวนี้ไม่แล้ว และจะไปไหน ต้องมีเพื่อน แม้จะเดินทางคนเดียว แต่ก็ต้องมีเพื่อนไปรอรับที่นั่น ที่สำคัญที่พักต้องดี และสะดวกสบาย

นิสัยผมอาจจะแตกต่างจากคนอื่นคือ ผมจะไม่ค่อยชอบไปเที่ยวที่ที่แปลกออกไปมากนัก แต่ชอบไปในที่ที่เราเคยไป และชอบไป เช่น เด็กๆ เคยไปฮ่องกง ไปเรียนที่ญี่ปุ่น เรียนที่อังฤษ ก็ยังคงชอบที่จะไป 3 ประเทศนี้รวมทั้งประเทศที่เราเคยไปบ่อย เช่น จีน สิงคโปร์ เกาหลี หรือที่อเมริกา และในแถบยุโรปบางประเทศ ผมว่ามันเป็นเรื่องของความผูกพันที่ทำให้เราพึงพอใจประทับใจกับการเดินทางไปในที่ต่างๆ เหล่านั้นนั่นเอง

 

เรื่องแปลกในการเดินทาง แต่ก่อนไม่ค่อยเจอ มาเจอช่วงหลังๆ นี่แหละ เช่น ตอนไปอังฤษ เจอคนเอามือมาล้วงกระเป๋า แล้วเรารู้สึกตัวทัน หันไป เขาก็ทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้แล้วเดินหนีไป โชคดีที่เขาไม่ทันเอาอะไรไปได้ หรือที่ฮ่องกง เดี๋ยวนี้มีการสัมภาษณ์เราละเอียดมากขึ้น ดูพาสปอร์ตเสร็จยังถามว่า เราชื่ออะไร ก็รู้สึกว่า เดี๋ยวนี้ เขาเข้มงวดมากขึ้น

ส่วนเรื่องลี้ลับก็มีนะครับ ที่เกาหลี เจอไฟปิด-เปิดเอง พอกลับมาบ้าน ในช่วงเวลาใกล้เคียงกัน ไฟมาเปิด-ปิดที่คอนโดฯ อีก และมีคนมายืนอยู่ข้างเตียงแล้วหายไป ก็อาจมีบางสิ่งตามเรามาหรือเปล่า และที่ญี่ปุ่นจู่ๆ มือถือเปิด และได้รับข้อความแปลกๆ เข้ามา ส่วนที่ฝรั่งเศส ไปพักสถานที่แห่งหนึ่ง ก็มีเด็กผู้หญิงมายืนข้างๆ ผมรีบหลับตา ไม่มอง แล้วหลับไปเลย ผมเชื่อว่า เรื่องพวกนี้มันเป็นพลังงานไฟฟ้าชนิดหนึ่ง จิตวิญญาณเป็นพลังงานไฟฟ้า เพราะทุกอย่างเกี่ยวกับพลังงานไฟฟ้าหมดไฟเปิด-ปิด มือถือ ผมว่าอาจด้วยคลื่นสัญญาณเราตรงกับเขาพอดี จึงสื่อสารกันได้ เขาก็ไม่ได้มีจุดประสงค์ร้ายนะ สิ่งสำคัญคือ ฝึกให้เรามีสติ และชีวิตผมก็ดีครับ

 

“ในทุกๆ ที่ที่ผมไป ผมว่ามีเสน่ห์ในตัวเอง ทั้งความแปลกใหม่ กลิ่นอายทางวัฒนธรรม ดังนั้นจึงประทับใจหมด ส่วนแพลนปีนี้ จะมีไปฮ่องกง อาบูดาบี มิลาน(อิตาลี) วันเกิดตัวเองวางไว้ว่าจะไปออนเซนที่ ซับโปโร ญี่ปุ่น ทั้งนี้ ไม่ว่าเราจะไปที่ไหนก็ควรรู้จักกาลเทศะ เคารพวัฒนธรรมประเพณีบ้านเขาด้วย เหมือนที่เราอยากให้ชาวต่างชาติเคารพวัฒนธรรมของเราเช่นเดียวกันครับ” 

bottom of page