Top 10 Countries
Best In Travel 2017
ใครยังไม่มีแพลนไปเที่ยวไหนกันบ้าง เตรียมกระเป๋าเงินกันไว้ให้ดี เพราะเราขอแนะนำ 10 ประเทศน่าเที่ยว ประจำปี 2017 โดยทาง Lonely Planet เขาจัดอันดับมาไว้ให้ ซึ่งขอรับประกันเลยว่าการเดินทางในครั้งนี้ของคุณจะต้องหลงใหลในเสน่ห์ของสถานที่ท่องเที่ยว วัฒนธรมประเทศต่าง ๆ จนขอกลับมาเยือนอีกครั้งอย่างแน่นอน!!!
1.CANADA

ประเทศแคนาดา: ประเทศอันกว้างใหญ่เเละเป็นสถานที่น่าไปเที่ยวที่สุดในทวีปอเมริกาเหนือ ครอบคลุมไปด้วยภูเขาเเละป่าไม้สีเขียว ทะเลสาบ และเมืองสวยงามที่ได้รับการโหวตว่ามีชีวิตชีวาน่าอยู่ ซึ่ง สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ ได้แก่ น้ำตกไนแองการา เมืองควิเบก เทือกเขาร็อกกี สะพานแขวนคาพิลาโน ทะเลสาปหลุยส์ ฯลฯ แถมปีนี้ยังเป็นปีแห่งการครบรอบ 150 ปีของประเทศแคนาดาอีกด้วย นอกจากจะถูกจัดอันดับว่าเป็นประเทศที่น่าเที่ยวแห่งปีแล้ว ปี 2017 นี้อุทยานแห่งชาติทั่วประเทศ ยังเข้าชมฟรี ไม่เสียค่าธรรมเนียม!!
2.COLUMBIA

ประเทศโคลัมเบีย: ดินแดนสเน่ห์อเมริกาใต้อย่างประเทศโคลัมเบียที่สมัยก่อนประเทศนี้มีแต่สงครามกลางเมืองและความรุนแรง จนนักท่องเที่ยวไม่ค่อยกล้าย่างกรายเข้าไปกันเท่าไหร่ แต่ทุกวันนี้ทุกอย่างได้เปลี่ยนไปเป็นประเทศที่สวยงามไม่แพ้ประเทศอื่น ๆ มีทั้งชายหาดสวย ภูเขาสูง ภูเขาไฟ ทะเลสาบ ทะเลทราย และวัฒนธรรมอันโดดเด่น สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ ได้แก่ ทะเลสาม 5 สี (The river of the five colors) เมืองหลวง กรุงโบโกตา (Bogotá) เป็นต้น
3.FINLAND

ประเทศฟินแลนด์: ฟินแลนด์ สวรรค์ของคนรักอากาศหนาว ที่มีหิมะปกคลุมอยู่เกือบทั่วทุกเมือง รวมทั้งยังมีกิจกรรมแบบชาวขั้วโลกเหนือให้ได้เล่นอยู่มากมาย นอกจากนั้นยังมีปรากฏการณ์พระอาทิตย์เที่ยงคืนให้นักท่องเที่ยวได้ชม แต่ฟินแลนด์ไม่ได้มีอากาศหนาวเย็นเพียงอย่างเดียว ยังมีภูเขา ป่าไม้ ทะเลสาบ ที่รอให้นักท่องเที่ยวเดินทางไปสัมผัส สถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญ ได้แก่ ปราสาทหิมะ (Snow Castle) หมู่บ้านซานตาคลอส (Santa Claus Village) KOTA Village กระท่อมที่พักสุดชิคกลางทุ่งหิมะ น้ำพุธิดาทะเลบอลติก (Havis Amanda) เป็นต้น แถมปีนี้ยังครบรอบ 100 ปีนับจากที่ฟินแลนด์ได้รับอิสรภาพในปี 1917 ดังนั้นทั่วทั้งประเทศจึงการเฉลิมฉลอง รวมทั้งยังเป็นเจ้าภาพจัดงาน World Figure Skating Championships และ Nordic World Ski Championships 2017 อีกด้วย
4.DOMINICA

ประเทศโดมินิกัน: หากเอ่ยถึง คงจะเป็นประเทศที่ไม่ค่อยคุ้นหูของใครหลายคนนัก เพราะเป็นเกาะเล็ก ๆ ตั้งอยู่ทางตะวันออกของหมู่เกาะเวสต์อินดีสในทะเลแคริบเบียน สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ ได้แก่ หาดทรายสีดำ (Black Sand Beach) และน้ำทะเลใสสะอาด ความบริสุทธิ์ของท้องทะเล ชายหาด และต้นมะพร้าว ซึ่งสิ่งที่ห้ามพลาดเลย เมื่อมาประเทศ DOMINICA คือการเที่ยวชมบรรยากาศป่าร้อนชื้นและน้ำตก ในเส้นทาง Waitukubuli trail ที่มีด้วยกัน 14 จุดท่องเที่ยว
5.NEPAL

ประเทศเนปาล: จากเหตุการณ์แผ่นดินไหวปี 2015 ทำความเสียหายให้กับประเทศเนปาลอย่างมหาศาล แต่ปัจจุบันได้ฟื้นฟูพัฒนากลับมาเป็นประเทศที่สวยงาม ซึ่งประเทศเนปาลเป็นประเทศที่ตั้งอยู่ในขุนเขาและธรรมชาติ มนต์เสน่ห์ของที่นี่ทำให้นักท่องเที่ยวหลายคนติดอกติดใจต้องกลับมาเยือนที่นี่มาแล้วนักต่อนัก สถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญคงหนีไม่พ้น ยอดเขาเอเวอร์เรสต์ ภูเขาที่สูงที่สุดในโลกที่นักปีนเขาทั่วโลกอยากมาสัมผัสเพื่อจะพิชิตยอดเขาแห่งนี้ให้ได้ นอกจากนั้นยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญอื่น ๆ อย่าง เมืองภักตะปูร์ เมืองกาฐมาณฑุ สวยัมภูวนาถ หรือวัดลิง เป็นต้น
6.BERMUDA

ประเทศเบอร์มิวดา: แท้จริงแล้ว "เบอร์มิวดา" คือชื่อของเกาะเบอร์มิวดา (Bermuda Island) ดินแดนโพ้นทะเลของสหราชอาณาจักรในมหาสมุทรแอตแลนติก ตั้งอยู่นอกชายฝั่งตะวันออกของสหรัฐอเมริกาห่างจากรัฐนอร์ทแคโรไลนาไปทางตะวันออก 580 ไมล์ ในเดือนมิถุนายน ปี 2017 เบอร์มิวด้าจะเป็นเจ้าภาพจัดงานแข่งเรือ America’s Cup อีกทั้งจุดเด่นของที่นี่คงหนีไม่พ้นชายหาดทรายขาวละเอียด และที่พลาดไม่ได้เลยก็คือ ชายหาดสีชมพู (Horseshoe Bay Beach) ซึ่งเกิดจากการผสมกันระหว่างปะการังที่ผุพัง แคลเซียม คาร์บอเนต และเปลือกของสัตว์เซลล์เดียวที่เรียกว่า foraminifera
7.MONGOLIA

ประเทศมองโกเลีย: ประเทศที่อุดมไปด้วยธรรมชาติ ภูเขา ป่าไม้ ทุ่งหญ้า ที่สมบูรณ์และสวยงาม ดั่งสวรรค์ที่ถูกเนรมิตให้อยู่บนพื้นดิน นอกจากเรื่องของธรรมชาติแล้ว สิ่งที่เป็นเสน่ห์อย่างเห็นได้ชัดของมองโกเลียก็คือ ศิลปวัฒนธรรมและผู้คน ซึ่งมีเอกลักษณ์แตกต่างจากที่อื่น ๆ ที่ยังคงดำเนินชีวิตแบบเรียบง่ายไปพร้อมกับการอยู่ร่วมกับธรรมชาติอย่างยั่งยืน สถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญ ได้แก่ ทะเลทรายโกบี อูลานบาตอร์ เทือกเขาอัลไต อุทยานแห่งชาติ Gorkhi terelj ฯลฯ และเทศกาลที่ห้ามพลาดของประเทศนี้เลยก็คือ เทศกาล Naadam มีการแสดงหลากหลาย ทั้งนักมวยปล้ำยักษ์ การแข่งม้า และยิงธนู จึงไม่แปลกใจเลยว่าทำไมดินแดนแห่งนี้เป็นจุดหมายปลายทางของนักเดินทางจากทั่วโลก
8.OMAN

ประเทศโอมาน: เป็นประเทศในแถบทะเลทรายที่กินพื้นที่ไปกว่าร้อยละ 82 เทือกเขาร้อยละ 15 ตั้งอยู่ทิศตะวันออกของทะเลอาหรับและอ่าวโอมาน เชื่อได้ว่าโอมานต้องเป็นดินแดนอาหรับราตรีเป็นเมืองในฝันที่อยู่ในจินตนาการของใครหลายคนอย่างแน่นอน อีกทั้งยังมีสถานที่และทะเลทรายอันงดงาม ได้แก่ อาละดิน ซินแบด และอาลีบาบา และปัจจุบันยังการเดินทางก็ง่ายแสนง่าย เพราะตอนนี้มีไฟลท์บินไปมากขึ้นกว่าแต่ก่อน แถมโรงแรมหรูเปิดอีกเพียบ สถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญ ได้แก่ มัสยิดสุลต่านกาบูส บิมมาซิงก์โฮล วาดิชาบ ป้อมบาห์ลา ทะเลทรายวาฮิบา เมืองซู เป็นต้น
9.MYANMAR

ประเทศเมียร์ม่า: ประเทศเพื่อนบ้านของเราอย่างประเทศพม่า หรือ เมียนมาร์ เป็นแหล่งดึงดูดนักท่องเที่ยวหลาย ๆ คนเอาไว้ โดยเฉพาะแหล่งวัฒนธรรมที่มีความสวยงามและปูชนียสถาน วัดวาอารามและสถาปัตยกรรมแบบโบราณ เรียกได้ว่าหากไปสัมผัสดินแดนผู้ชนะสิบทิศอย่างประเทศพม่า สัมผัสวีถีชีวิตของผู้คนที่ใช้ชีวิตอย่างเรียบง่าย ต้องเป็นอันหลงใหลจนต้องขอกลับมาอีกครั้งอย่างแน่นอน สถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญ ได้แก่ เมืองพุกาม พระธาตุอินทร์แขวน เจดีย์วเชิกอง ทะเลสามอินเล พระราชวังมัณฑะเลย์ เป็นต้น
10.ETHIOPIA

ประเทศเอธิโอเปีย: เมื่อพูดถึงประเทศเอธิโอเปีย ทุกคนจะต้องนึกถึงแต่ความหิวโหย แห้งแล้ง กันดาร มองกลับกันประเทศเอธิโอเปียในปัจจุบันอุดมไปด้วยธรรมชาติ ภูเขาสูงสลับซับซ่อนที่สวยงาม และเป็นประเทศที่น่าตื่นตาตื่นใจมากอีกประเทศหนึ่ง ไม่ว่าจะไปปีนเขาที่ Simien Mountains เพื่อดูสัตว์ป่าหายากที่ใช้ชีวิตตามวิถีธรรมชาติด้วยตาเปล่า ซึ่งในปี 2017 จะมีสายการบินใหม่ๆ บินตรงสู่ประเทศเอธิโอเปีย เพื่อทำให้การเดินทางสะดวกและง่ายมากยิ่งขึ้น สถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญ ได้แก่ Lalibela, Simien Mountains, Harar, Gonder เป็นต้น
ขอขอบคุณ
lonelyplanet